ฮิปโปโปเตมัส/Hippopotamus (Hippopotamus amphibius)

สิ่งที่น่าสนใจ :

“รู้หรือไม่” ฮิปโปโปเตมัสเป็นญาติสนิทกับปลาวาฬ ฮิปโปโปเตมัสเป็นภาษากรีกที่แปลว่า “ม้าแม่น้ำ” ฮิปโปโปเตมัสว่ายน้ำไม่ได้ แต่จะใช้การวิ่งหรือเดินไปตามก้นแม่น้ำแทน โดยสามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้นานประมาณ 5 นาที ฮิปโปโปเตมัสใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในน้ำหรือโคลน มากกว่าบนบก ฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีรูปร่างกลมใหญ่ หางสั้นประมาณ 5 เซนติเมตร วิ่งได้เร็วประมาณ 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ฮิปโปโปเตมัสมีหูขนาดเล็กเมื่อเทียบกับขนาดของหัว สีผิวตามลำตัวของฮิปโปโปเตมัสมีสีน้ำตาลแดงเข้ม ผิวหน้าท้องมีสีชมพู ผิวหนังมีขนสั้น มีขนหนาที่หางและจมูก ฮิปโปโปเตมัสมีหางสั้นและแบน ตีนแต่ละข้างมี 4 นิ้ว และมีพังผืด จมูก หู และตาของฮิปโปโปเตมัสอยู่ตอนบนของหัว เพื่อให้ง่ายในการมอง และหายใจขณะที่ลำตัวจมอยู่ในน้ำ หูและรูจมูกสามารถพับปิดเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าได้ ฮิปโปโปเตมัสมีประสาทรับกลิ่น การได้ยิน และการมองเห็นที่ยอดเยี่ยม แม้ในเวลากลางคืน ฮิปโปโปเตมัสอ้าปากกว้างถึงประมาณ 150 องศา เขี้ยวโค้งยาวประมาณ 50 เซนติเมตร มีฟันยาวประมาณ 40 เซนติเมตร ฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีรูปร่างกลมใหญ่ หางสั้นประมาณ 5 เซนติเมตร วิ่งได้เร็วประมาณ 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ฮิปโปโปเตมัสมีหูขนาดเล็กเมื่อเทียบกับขนาดของหัว สีผิวตามลำตัวของฮิปโปโปเตมัสมีสีน้ำตาลแดงเข้ม ผิวหน้าท้องมีสีชมพู ผิวหนังมีขนสั้น มีขนหนาที่หางและจมูก ฮิปโปโปเตมัสมีหางสั้นและแบน ตีนแต่ละข้างมี 4 นิ้ว และมีพังผืด จมูก หู และตาของฮิปโปโปเตมัสอยู่ตอนบนของหัว เพื่อให้ง่ายในการมอง และหายใจขณะที่ลำตัวจมอยู่ในน้ำ หูและรูจมูกสามารถพับปิดเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าได้ ฮิปโปโปเตมัสมีประสาทรับกลิ่น การได้ยิน และการมองเห็นที่ยอดเยี่ยม แม้ในเวลากลางคืน ฮิปโปโปเตมัสมีต่อมใต้ผิวหนังที่ผลิตเมือกเหลวออกมา เมื่อโดนแสงแดด จะค่อย ๆ กลายเป็นสีแดงอ่อนคล้ายเลือด เรียกว่า “เหงื่อเลือด” เป็นส่วนผสมของกรดฮิปโปซูโดริกและกรดนอร์ฮิปโปซูโดริก มีประโยชน์เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดด และป้องกันการติดเชื้อ

ถิ่นอาศัย :

พบในทวีปแอฟริกา ในสาธารณรัฐแองโกลา, สาธารณรัฐเบนิน, สาธารณรัฐบอตสวานา, บูร์กินาฟาโซ, สาธารณรัฐบุรุนดี, สาธารณรัฐแคเมอรูน, สาธารณรัฐแอฟริกากลาง, สาธารณรัฐชาด, สาธารณรัฐคองโก, สาธารณรัฐโกตดิวัวร์, สาธารณรัฐอิเควทอเรียลกินี, ราชอาณาจักรเอสวาตินี, สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย, สาธารณรัฐกาบอง, สาธารณรัฐแกมเบีย, สาธารณรัฐกานา, สาธารณรัฐกินี, สาธารณรัฐกินี-บิสเซา, สาธารณรัฐเคนยา, สาธารณรัฐมาลาวี, สาธารณรัฐมาลี, สาธารณรัฐโมซัมบิก, สาธารณรัฐนามิเบีย, สาธารณรัฐไนเจอร์, สหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย, สหพันธ์สาธารณรัฐรวันดา, สหพันธ์สาธารณรัฐเซเนกัล, สหพันธ์สาธารณรัฐเซียร์ราลีโอน, สหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลีย, แอฟริกาใต้, ซูดานใต้, สาธารณรัฐซูดาน, สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย, สาธารณรัฐโตโก, สาธารณรัฐยูกันดา, สาธารณรัฐแซมเบีย, และสาธารณรัฐซิมบับเว, สูญพันธุ์จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแอลจีเรีย, สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์, รัฐเอริเทรีย, สาธารณรัฐไลบีเรีย, และสาธารณรัฐอิสลามมอริเตเนีย โดยอาศัยบริเวณแม่น้ำ ทะเลสาบ และพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่ระดับความสูงตั้งแต่ระดับน้ำทะเลถึงระดับความสูง 2,000 เมตร

อาหาร :

เป็นสัตว์กินพืช โดยกินหญ้าเป็นอาหารหลัก ประมาณ 40–100 กิโลกรัม/วัน

พฤติกรรม :

มักอยู่รวมกันเป็นฝูงประมาณ 10–100 ตัว ปกติอาศัยอยู่ในน้ำตามบริเวณน้ำนิ่งหรือน้ำไหลเอื่อย ๆ ในช่วงเวลากลางวัน และขึ้นบกมาหากินตอนกลางคืน เป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร จากริมฝั่งเข้าไปในทุ่งหญ้า เวลาถ่ายมูลฮิปโปโปเตมัสจะสะบัดหางอย่างรวดเร็วให้กระเด็นไปรอบ ๆ เพื่อประกาศอาณาเขต

สถานภาพปัจจุบัน :

1. เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในสถานภาพมีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ (Vulnerable: VU) จากการประเมินสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต โดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature: IUCN) หรือ IUCN Red List (2016) 2. เป็นชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าในบัญชีหมายเลข 2 ที่ยังไม่ถึงกับใกล้จะสูญพันธุ์ จึงยังอนุญาตให้ค้าได้ แต่ต้องมีการควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหาย หรือลดปริมาณลงอย่างรวดเร็วจนถึงจุดใกล้จะสูญพันธุ์ หรือลดปริมาณลงอย่างรวดเร็วจนถึงจุดใกล้จะสูญพันธุ์ โดยประเทศที่จะส่งออกต้องมีหนังสืออนุญาตให้ส่งออกและรับรองว่าการส่งออกแต่ละครั้งจะไม่กระทบกระเทือนต่อการดำรงอยู่ของชนิดพันธุ์นั้น ๆ ในธรรมชาติ ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora: CITES)

อนุกรมวิธาน

CLASS : Mammalia

ORDER : Artiodactyla

FAMILY : Hippopotamidae

GENUS : Hippopotamus

SPECIES : Hippopotamus (Hippopotamus amphibius)

อายุเฉลี่ย :

อายุขัยประมาณ 40–55 ปี

วัยเจริญพันธุ์ :

ฮิปโปโปเตมัสผสมพันธุ์ได้ตลอดปีส่วนใหญ่จะผสมพันธุ์กันในน้ำ โดยผสมพันธุ์ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนสิงหาคม คลอดลูกประมาณเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน มักจะผสมพันธุ์ปีเว้นปี ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ อายุประมาณ 7–9 ปี ตัวผู้เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ อายุประมาณ 9–11 ปี ฮิปโปโปเตมัสมีระยะตั้งท้องนาน 8 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว เวลาใกล้คลอดฮิปโปโปเตมัสจะแยกตัวไปอยู่บนบกหรือในน้ำตื้น ลูกฮิปโปโปเตมัสอาจจะเกิดบนบกหรือในน้ำก็ได้ และจะกลับมารวมฝูงหลังจากคลอดแล้ว 14 วัน ตัวเมียมีเต้านม 2 เต้า ลูกฮิปโปโปเตมัสดูดนมในน้ำ มีน้ำหนักแรกเกิดประมาณ 22–55 กิโลกรัม เริ่มกินหญ้าประมาณ 1 เดือน หย่านมเมื่ออายุประมาณ 6–8 เดือน ลูกฮิปโปโปเตมัสจะโตเต็มที่เมื่ออายุ 3.5 ปี

ขนาดและน้ำหนัก :

ตัวเต็มวัยเพศผู้มีน้ำหนักประมาณ 1,600–3,200 กิโลกรัม ตัวเต็มวัยเพศเมียมีน้ำหนักประมาณ 1,400–2,300 กิโลกรัม ความยาวลำตัว จากปลายจมูกถึงโคนหางประมาณ 3.3–5.2 เมตร หางยาวประมาณ 35 เซนติเมตร ความสูงระดับไหล่ประมาณ 1.50–1.65 เมตร

ข้อมูลอ้างอิง :

รายละเอียดเพิ่มเติม

สถานที่ชม :


แก้ไขข้อมูล ณ วันที่ 11 เมษายน 2560