งูเห่าหม้อ, งูเห่าไทย/Monocled Cobra (Naja kaouthia)

สิ่งที่น่าสนใจ :

ขนาดตัวใหญ่ หัวสั้นและแบน ส่วนของหัวกว้างใกล้เคียงกับลำคอ ส่วนปลายของหัวมน ตาค่อนข้างเล็ก สีลำตัวแปรผัน เช่นพื้นสีดำ มีลายคาดขวางสีครีมตลอดลำตัว หรือมีลำตัวสีเขียวอมเทา บางพื้นที่มีสีลำตัวน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม ไปจนถึงสีครีม และด้านหลังของคอมีลวดลายสีครีมหรือสีขาวเรียกว่า “ดอกจัน”

ถิ่นอาศัย :

พื้นที่ราบลุ่มค่อนข้างชื้น หรือพื้นที่เกษตรกรรม แต่ยังพบได้ในพื้นที่ลักษณะต่างๆ รวมถึงชุมชนเมืองใหญ่ในกรุงเทพมหานครด้วย การกระจายพันธุ์: มีการแพร่กระจายทุกภาค พบน้อยในภาคเหนือ และอีสาน

อาหาร :

นก หนู กบ เขียด ลูกไก่ แม้กระทั่งงู แต่จากประสบการณ์พบว่างูเห่าไทยจะชอบกินคางคกเป็นพิเศษ

พฤติกรรม :

งูเห่าไทยเป็นงูเห่าที่คนรู้จักกันมากที่สุดเนื่องจากเป็นงูที่มีชื่อเสียงในด้านความรุนแรงของพิษ และพบได้ไม่ยากนัก ออกหากินเวลาพลบค่ำตามพื้นดิน แต่สามารถว่ายน้ำหรือขึ้นต้นไม้ได้ดี

สถานภาพปัจจุบัน :

สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์

อื่นๆ :

งูเห่าไทยไม่สามารถพ่นพิษได้แต่มีความรุนแรงของพิษสูงมาก ประกอบกับมีความชุกชุมสูง และเป็นงูที่ทำให้คนตายมากที่สุดในประเทศไทย (แต่ก็น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่ถูกงูเห่ากัด)

อนุกรมวิธาน

CLASS : Reptilia

ORDER : Squamata

FAMILY : Elapidae

GENUS : Naja

SPECIES : Monocled Cobra (Naja kaouthia)

สถานะภาพทางการอนุรักษ์ : สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์

วัยเจริญพันธุ์ :

งูเห่าไทยสืบพันธุ์โดยการวางไข่ครั้งละ 12 - 30 ฟองใช้เวลาฟักประมาณ 50 - 60 วัน โดยมักเริ่มวางไข่ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมถึงมีนาคม

ขนาดและน้ำหนัก :

200 เซนติเมตร

ข้อมูลอ้างอิง :

รายละเอียดเพิ่มเติม

สถานที่ชม :


แก้ไขข้อมูล ณ วันที่ 11 เมษายน 2560